เข้าใจกฎ Two Bounce ในกีฬาพิคเคิลบอล

เข้าใจกฎ Two Bounce ในกีฬาพิคเคิลบอล

ในกีฬาพิคเคิลบอลมีกฎ "two bounce" ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความสนุกสนานและความยุติธรรม กฎนี้จะช่วยให้การต่อลูกมีความยาวนานขึ้นและใช้กลยุทธ์มากขึ้น เนื่องจากจะช่วยลดข้อได้เปรียบของการเสิร์ฟและการตีลูกแบบวอลเล่ย์ได้

ผู้เล่นสามารถตีลูกด้วยความมั่นใจและสนุกสนานมากขึ้นเมื่อพวกเขารู้จักกฎนี้ดี ถึงแม้ที่มาของกฎนี้อาจจะไม่ชัดเจน แต่ก็ช่วยส่งเสริมการเล่นเชิงกลยุทธ์และสร้างความเท่าเทียมกันในสนามได้เป็นอย่างดี ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้เล่นมืออาชีพก็จำเป็นต้องเข้าใจและฝึกฝนกฎข้อนี้ให้ชำนาญหากต้องการเล่นพิคเคิลบอลให้เก่งขึ้น

กำเนิดของกฎ two bounce ในกีฬาพิคเคิลบอล

กฎการตีสองครั้ง Two bounce ของกีฬาพิคเคิลบอล ซึ่งระบุว่าลูกบอลจะต้องแตะพื้นสนามข้างละครั้งก่อนที่จะตีแบบวอลเล่ย์ ยังไม่มีที่มาที่แน่ชัด โดยกีฬาพิคเคิลบอลถูกคิดค้นขึ้นในปี 1965 โดย โจ พริทชาร์ด และ บิล เบลล์ ในฐานะกีฬากลางแจ้งสำหรับครอบครัว กฎพื้นฐานของกีฬานี้จึงอาจอ้างอิงตามแนวคิดของพวกเขา

ความสำคัญของกฎ two bounce ในกีฬาพิคเคิลบอล

กฎการตีสองครั้ง (Two-Bounce Rule) ใน Pickleball เป็นกฎที่สำคัญเพราะมันเปลี่ยนวิธีการเล่น โดยถ้าไม่มีกฎนี้ เกมส์น่าจะจบลงเร็วมากๆ ซึ่งจะทำให้ทุกคนรู้สึกเบื่อ เพราะหากผู้เล่นทำการวอลเล่ย์หลังการเสิร์ฟที่เส้นครัว (NVZ) ได้ ก็จะทำให้เกมส์จบลงได้อย่างรวดเร็ว

ลูกเสิร์ฟที่สูงโด่งอาจจะถูกตบกลับมาอย่างรุนแรงได้ทันที และลูกเสิร์ฟที่เบาอาจจะถูกตวัด (dink) ข้ามตาข่ายไปได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ทีมที่เสิร์ฟต้องวิ่งจากด้านข้างสนามเข้ามายังหน้าตาข่ายเพื่อรับลูกได้อย่างยากลำบาก การใช้กฎ two bounce นี้ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนเกมทำให้เกิดการยื้อแย่ง (rallies) และตีโต้ตอบกันได้ยาวนานขึ้นและตื่นเต้นมากขึ้น

กฎนี้นอกจากจะช่วยลดข้อได้เปรียบของการเสิร์ฟแล้ว ยังทำให้เกมการเล่นพิคเคิลบอลยาวขึ้นและส่งเสริมให้เกิดการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในสนามการแข่งขันมากขึ้น ลองเล่นกันดูสักสองสามแต้มระหว่างการวอร์มโดยไม่จำกัดการตีสองครั้งดูได้ หากต้องการทดสอบสถานการณ์ กฎนี้ส่งผลกระทบต่อการเล่นอย่างมาก โดยเกมจะสนุกสนานและท้าทายมากขึ้นในเชิงกลยุทธ์

สรุปกฎ two bounce ในการแข่งขันพิคเคิลบอล มีวัตถุประสงค์คือ

  • เพื่อกำจัดข้อได้เปรียบจากลูกเสิร์ฟและการวอลเลย์

กติกาข้อนี้ป้องกันไม่ให้ฝ่ายเสิร์ฟได้เปรียบเกินไปจากการวอลเลย์ลูกที่สาม เนื่องจากการเสิร์ฟเป็นวิธีเดียวที่จะทำคะแนนได้ นอกจากนี้ยังช่วยจำกัดฝ่ายรับไม่ให้วอลเลย์ลูกตีกลับ ส่งผลให้เกิดความสมดุลในเกม

  • เพื่อรักษาความตื่นเต้นของการยื้อแย่งและชิงไหวพริบในสนามแข่งขัน

หากไม่มีกติกา “Two bounce” เกมพิคเคิลบอลอาจจะจบลงเร็วจากการรับลูกเสิร์ฟหรือลูกที่สาม ซึ่งจะลดความตื่นเต้นของการยื้อแย่งชิงไหวชิงพริบด้วยลูกตบเบา (dink rallies) ลงซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกีฬาพิคเคิลบอล

ต้องรู้เอาไว้ว่า กฎ two-bounce เป็นกฎที่ฝ่ายเสิร์ฟมักจะทำผิดมากกว่าฝ่ายรับ ฝ่ายเสิร์ฟมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการตีลูกครั้งที่สอง ซึ่งทำให้ฝ่ายเสิร์ฟไม่สามารถเล่นเกมรุกได้อย่างเต็มที่จนกว่าจะถึงลูกที่ห้า ดังนั้น ฝ่ายเสิร์ฟจึงต้องวางแผนการเล่นและเลือกตีลูกอย่างชาญฉลาดตั้งแต่ช่วงแรกของการรับส่งลูก

Back to blog