pickleball scoring

การนับคะแนนในกีฬาพิคเคิลบอล (ข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น)

พิคเคิลบอลถูกคิดค้นและเล่นบนสนามแบดมินตันในปี 1965 เป็นกีฬาที่ผสมผสานระหว่างแบดมินตัน ปิงปอง เทนนิส และเป็นหนึ่งในกีฬาที่เติบโตเร็วที่สุด แม้ว่าพิคเคิลบอลจะเป็นกีฬาที่ง่าย แต่การนับคะแนนอาจจะทำให้ผู้เริ่มต้นสับสนเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวล เรามีคำแนะนำง่ายๆ เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการนับคะแนนพิคเคิลบอลได้ง่ายขึ้น

กฎการให้คะแนนพิคเคิลบอล

กฎการให้คะแนนของพิคเคิลบอลแตกต่างจากกีฬาอื่นๆ ตรงที่ เฉพาะฝ่ายเสิร์ฟเท่านั้นที่จะทำคะแนนได้ ดังนั้นการเสิร์ฟที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฝ่ายเสิร์ฟ นอกจากนี้ยังมีการต่อลูก (แรลลี่) ที่มีความสำคัญสำหรับทั้งฝ่ายเสิร์ฟและฝ่ายรับเช่นกัน

แม้ว่าฝ่ายรับจะไม่สามารถทำคะแนนได้โดยตรง แต่ก็สามารถแย่งชิงสิทธิ์ในการเสิร์ฟกลับมาได้ เพื่อที่จะทำคะแนนและเอาชนะเกม การรับก็เป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญในการเล่นพิคเคิลบอล

ผู้เสิร์ฟคนแรกจะถูกตัดสินด้วยการโยนเหรียญ จากนั้น เกมก็จะเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว การต่อลูก (แรลลี่) อาจจะยาวนานกว่าเทนนิส แต่เวลาพักระหว่างแต้มนั้นสั้นกว่ามาก ดังนั้น ผู้เล่นควรเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอเพื่อรับมือกับเกมที่รวดเร็วนี้

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ การเสิร์ฟ จะต้องเสิร์ฟให้ลูกบอลข้ามเส้นเขตพื้นที่ห้ามวอลเล่ย์ ไปยังบริเวณคอร์ทเสิร์ฟทแยงมุมด้วย

หลักการนับคะแนนเบื้องต้น

การแข่งขัน Pickleball จะแข่งขันกันที่ 11 แต้ม ทีมที่ชนะต้องนำห่างสองแต้มเพื่อเอาชนะ และคุณสามารถทำคะแนนใน Pickleball ได้เมื่อเป็นฝ่ายเสิร์ฟเท่านั้น โดยปกติ คุณจะต้องชนะสองในสามเกมถึงสิบเอ็ดคะแนนเพื่อที่จะชนะเกมการแข่งขัน

กฎพิเศษสำหรับการเล่นประเภทคู่

การแข่งขันประเภทคู่ใน Pickleball จะมีผู้เล่นสี่คน โดยแบ่งเป็นทีมละสองคน โดยคนที่เสิร์ฟจะต้องมีการขานคะแนนก่อนเริ่มเกม

ผู้เล่นคนแรกจะเริ่มจากด้านขวาของคอร์ท และขานคะแนนโดยเริ่มจากคะแนนของทีมที่เสิร์ฟที่ 0,0,2 (คะแนนฝ่ายเสิร์ฟ, คะแนนฝ่ายรับ, หมายเลขผู้ทำการเสิร์ฟ)

กฎการเสิร์ฟครั้งแรก

ถือเป็นกฎพื้นฐานของพิคเคิลบอลประเภทคู่ (doubles) โดยระบุว่า ผู้เสิร์ฟคนแรกจะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในทีมที่ทำการเสิร์ฟในช่วงรอบแรก ทีมที่ได้สิทธิ์เสิร์ฟก่อน คือ ทีมที่ได้รับเลือกให้เป็นฝ่ายเสิร์ฟก่อนโดยใช้วิธีเลือกเหรียญหัวก้อยหรือจับสลาก กฎนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้ทีมที่เสิร์ฟก่อนมีข้อได้เปรียบ และการเสิร์ฟก่อนก็ไม่ได้ส่งผลต่อการชนะเกมการแข่งขัน ผลลัพธ์ของทั้งสองทีมแทบจะไม่แตกต่างกันเลย กฎข้อยกเว้นแรกนี้ช่วยให้เกมมีความยุติธรรม

ถ้าฝ่ายที่เสิร์ฟเพิ่งเสียสิทธิ์ในการเสิร์ฟ สิทธิ์ในการเสิร์ฟจะเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายตรงข้าม โดยฝ่ายตรงข้ามจะเสิร์ฟจากด้านขวาของสนาม (ฝั่งขวา)

กฎเดียวกันนี้ใช้กับทีมที่เพิ่งได้สิทธิ์ในการเสิร์ฟด้วย ทุกครั้งที่ทำคะแนนได้ ฝ่ายที่เสิร์ฟจะเปลี่ยนด้าน โดยเปลี่ยนจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย รวมถึงคู่ของผู้เสิร์ฟก็จะเปลี่ยนด้านด้วย ดังนั้น ตราบใดที่ยังทำคะแนนได้ ฝ่ายที่เสิร์ฟจะสลับด้านกันไปตลอด ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้เสมอเมื่อคุณเป็นฝ่ายเสิร์ฟ

ในทางกลับกัน ฝ่ายรับจะไม่เปลี่ยนด้านหลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามทำคะแนนได้ พวกเขาจะอยู่คนละด้านของสนามจนกว่าจะได้สิทธิ์ในการเสิร์ฟ

ตัวอย่างการคิดคะแนนการแข่งขันประเภทคู่

เมื่อเกมเริ่ม ตำแหน่งเสิร์ฟคนแรกจะประกาศคะแนนเป็น 0,0,2 ซึ่งหมายความว่า ทีมเราได้ 0 แต้ม ทีมคู่แข่งได้ 0 แต้ม และเราเป็นผู้เสิร์ฟคนที่สอง

หลังจากนั้นถ้าทีมที่เสิร์ฟชนะการรับส่งลูก ผู้เสิร์ฟคนที่หนึ่งจะย้ายไปด้านซ้ายของสนาม คู่ของเขาจะย้ายไปด้านขวา และประกาศคะแนนเป็น 1,0,2 ซึ่งหมายความว่า ทีมเราได้ 1 แต้ม ทีมคู่แข่งได้ 0 แต้ม และเราเป็นผู้เสิร์ฟคนที่สอง

ตรงนี้เป็นส่วนที่คะแนนพิคเคิลบอลอาจจะดูยุ่งยาก ผู้เสิร์ฟคนที่หนึ่งประกาศคะแนนเป็น 1,0,2 และเริ่มการรับส่งลูกโดยเสิร์ฟจากด้านซ้ายไปยังด้านซ้ายของฝั่งตรงข้าม ทีมคู่แข่งตีลูกกลับมา และทีมของผู้เสิร์ฟคนที่หนึ่งรับพลาด โอกาสในการเสิร์ฟจึงย้ายไปยังทีมที่รับลูกได้ เพื่อให้พวกเขาสามารถเสิร์ฟและทำคะแนนได้เช่นกัน

ทีมที่รับลูกเสิร์ฟเปลี่ยนเป็นทีมเสิร์ฟแทน

เหมือนเดิมคือ คนเสิร์ฟคนแรกคือคนที่อยู่ฝั่งขวาของสนาม แต่ตอนนี้เค้าประกาศว่า 0,1,1 ซึ่งหมายความว่าทีมเราได้ 0 แต้ม ทีมคุณได้ 1 แต้ม และผมเป็นคนเสิร์ฟหมายเลขหนึ่งของทีมเราในรอบเสิร์ฟนี้

คนที่เสิร์ฟจะขานคะแนน จากนั้นก็เสิร์ฟลูกต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีคนตีลูกพลาด ในกรณีที่คนเสิร์ฟเป็นฝ่ายตีพลาด ก็จะเสียสิทธิ์ในการเสิร์ฟต่อและเปลี่ยนผู้เสิร์ฟ จำไว้ว่านี่เป็นกีฬาประเภททีม สมาชิกอีกคนของอีกทีมก็จะได้โอกาสทำคะแนนบ้าง คนเสิร์ฟคนที่สองจะขานคะแนนว่า 0,1,2

นั่นหมายความว่าคะแนนของเราคือ 0 แต้ม ทีมคุณ 1 แต้ม และผมเป็นคนเสิร์ฟคนที่สองของทีม คนเสิร์ฟคนนี้จะเสิร์ฟต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าทีมของเขาจะเสียแต้ม แล้วทำการเปลี่ยนฝั่งเสิร์ฟ

ตัวอย่างเพื่อช่วยให้คุณจำลำดับการนับคะแนน

ถ้าคุณจำว่า "เรา-เขา-ฉัน" ไว้ได้ คุณจะไม่มีวันลืมประกาศคะแนนเมื่อถึงตาเสิร์ฟของคุณ

เรา – คะแนนทีมของเรา คุณจะเริ่มประกาศคะแนนทีมของคุณก่อนเสมอ เขา – ประกาศคะแนนทีมฝ่ายรับ ฉัน – คุณเป็นคนเสิร์ฟคนแรกหรือคนที่สอง ถ้าคู่ของคุณเพิ่งเสิร์ฟไป คุณก็เป็นคนเสิร์ฟคนที่สอง ถ้าฝ่ายตรงข้ามเพิ่งเสิร์ฟเสร็จ คุณก็เป็นคนเสิร์ฟคนที่หนึ่ง

การนับคะแนนในพิคเคิลบอลประเภทเดี่ยว

การนับคะแนนในพิคเคิลบอลประเภทเดี่ยว มีความคล้ายคลึงกับประเภทคู่มาก ความแตกต่างสำคัญระหว่างการนับคะแนนประเภทเดี่ยวกับประเภทคู่ อยู่ที่ตำแหน่งการเสิร์ฟของผู้เล่นในสนาม และไม่จำเป็นต้องเรียกหมายเลขผู้เสิร์ฟ เนื่องจากมีผู้เสิร์ฟเพียงคนเดียวในแต่ละฝั่ง

ตำแหน่งการเสิร์ฟจะขึ้นอยู่กับคะแนน และวิธีที่ผู้เล่นพิคเคิลบอลประเภทเดี่ยวจะขานคะแนน

ผู้เล่นแต่ละคนจะขานเฉพาะคะแนนของผู้เสิร์ฟ ตามด้วยคะแนนของผู้รับเสมอ หากคะแนนของผู้เสิร์ฟเป็นเลขคู่การเสิร์ฟก็จะอยู่ที่สนามด้านขวาเสมอ และหากคะแนนของผู้เสิร์ฟเป็นเลขคี่ก็จะอยู่ด้านซ้ายของสนาม

การติดตามการนับคะแนนให้ถูกต้อง

วิธีง่ายๆ คือต้องจำให้ได้ว่าคุณอยู่ฝั่งที่ถูก คือการจำด้านที่คุณเริ่มเกม ไม่ว่าคุณจะเริ่มเสิร์ฟหรือรับ คุณอยู่ด้านไหนในตอนเริ่มเกม คะแนนเลขคู่ (คุณอยู่ด้านขวา) หรือ คะแนนเลขคี่ (คุณอยู่ด้านซ้าย)?

ถ้าคะแนนของทีมคุณ (คะแนนที่ทีมของคุณมีในเกม) เป็นเลขคู่ คุณควรอยู่ที่ด้านที่คุณเริ่มเกม ถ้าคะแนนของทีมคุณเป็นเลขคี่ คุณควรอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ที่คุณเริ่มเกม ไม่อย่างนั้น จะแสดงว่าคุณอาจจดคะแนนผิดพลาด หรือลืมเปลี่ยนด้านเมื่อมีการทำแต้ม

บทสรุปเกี่ยวกับการคิดคะแนนพิคเคิลบอล

เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการคิดคะแนนพิคเคิลบอลมากขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกฎการเสิร์ฟคนแรกที่ไม่ได้มีผลต่อการแพ้ชนะ ฝ่ายที่ชนะ 2 ใน 3 เกม โดยแต่ละเกมต้องชนะ 11 คะแนน (ชนะ 2 แต้ม) จะเป็นฝ่ายชนะการแข่งขัน สำหรับการแข่งขันประเภทคู่ ผู้เล่นต้องขานคะแนนแบบ 3 ชุดก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง ซึ่งประกอบด้วย คะแนนฝ่ายตัวเอง คะแนนคู่แข่ง และหมายเลขผู้เสิร์ฟ ส่วนการแข่งขันประเภทเดี่ยว ผู้เล่นจะขานคะแนน 2 ชุดก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง ซึ่งประกอบด้วย คะแนนผู้เสิร์ฟ ตามด้วยคะแนนฝ่ายรับ

ตอนนี้คุณก็ได้เข้าใจวิธีการนับคะแนนในกีฬาพิคเคิลบอลแล้ว ก็พร้อมแล้วที่จะออกไปเล่นพิคเคิลบอลสนุกๆ กับเพื่อนของคุณได้อย่างมั่นใจ

Back to blog